ในเมื่อหมดสิ้นหนทางแล้ว ชาวบ้านจึงได้หวังพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้รอดพ้นสถานการณ์อันเลวร้ายนี้ให้ได้ แต่ก็ต้องเผชิญกับข้อจำกัดมากมายเพราะสถานการณ์โควิด-19 เลยเปลี่ยนเป็นจุดธูปแทน

สำนักข่าว คมชัดลึก รายงานข่าวว่า เมื่อวันที่ 27 พฤษภาคม 2563 ได้มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ชื่อ นึก วิเชียรบุรี เพชรบูรณ์ ได้โพสต์ข้อความ พร้อม คลิปวิดีโอ เป็นภาพฝนตกที่ภายในหมู่บ้าน ความยาวประมาณ 24 วินาที ว่า "ฝนตกแรงในรอบเกือบครึ่งปี แต่ปัญหาเรื่องน้ำที่สระหนองปรือที่ใช้ทำน้ำปะปา บ้านโคกปรือ หมู่ 3 ก็ยังเหมือนเดิม น้ำแห้งเกือบหมดสระแล้ว ขุ่น เหม็น (เหม็นมากๆเหม็นเหมือนน้ำเน่า) เวลาอาบทั้งคันทั้งผื่นขึ้น ขอวอนหน่วยงานภาครัฐช่วยหาทางช่วยเหลือชาวบ้านด้วย เดือดร้อนกันหนักมาก วอนขอความเห็นใจชาวบ้าน

ทุกครัวเรือนหมู่ 3 ซักผ้าทีเหม็นน้ำติดเสื้อผ้า จะแปรงฟันทีก็อ้วกแทบจะแตกเหม็นน้ำ ขอความกรุณา ช่วยชาวบ้านด้วยครับ ชาวบ้านก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครนอกจากหน่วยงานภาครัฐ" และหลังจากข้อความและคลิปวิดีโอ ดังกล่าว ได้ถูกเผยแพร่ออกไป ก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ กดไลค์ กดแชร์ จำนวนหลายราย อาทิ ผู้ใช้เฟซบุ๊กบางรายโพสต์ว่า "เดือดร้อนมาก ตั้งแต่กลับมาอยู่บ้านเกือบเดือนไม่เคยได้ใช้น้ำดีๆเลย เป็นแบบนี้มาหลายปีแล้วบ้านโคก" ขณะที่ผู้ใช้เฟสบุ๊คอีกรายโพสต์ว่า "ไปบ้านทีอาบน้ำแล้วคันกลับมากรุงเทพลูกผื่นเป็นตุ่มเต็มแล้วก็คันมันบอกไม่ชอบไปบ้านย่าอาบน้ำไม่สะอาด"


หลังจากทราบเรื่องที่เกิดขึ้นจึงได้เดินทางไปยังพื้นที่ หมู่ที่ 3 บ้านโคกปรือ ต.บึงกระจับ อ.วิเชียรบุรี พบชาวบ้านจำนวนหนึ่งประมาณกว่า 10 คน กำลังรวมตัวกัน นำดอกไม้ธูปเทียน น้ำเขียวน้ำแดง เดินทางไปกราบไหว้ เพื่อบนบานให้เจ้าพ่อทองแดงและแม่ย่าสุนันทา ที่สถิตอยู่ที่ศาลเพียงตากลางหมู่บ้าน ซึ่งตั้งอยู่บริเวณริมสระน้ำหนองปรือ ให้ช่วยดลบันดาลให้ฝนตกลงมาเต็มสระ หลังสระน้ำดังกล่าวซึ่งเป็นสระขนาดใหญ่ มีเนื้อที่จำนวน 29 ไร่ ที่ใช้ในการกักเก็บน้ำใช้ผลิตทำน้ำประปา ให้กับชาวบ้านหมู่ที่ 3 บ้านโคกปรือ จำนวนกว่า 200 หลังคาเรือน ได้เริ่มแห้งขอดลง จนมีสีขุ่นและส่งกลิ่นเน่าเหม็นมานาน กว่า 3 เดือน

โดยชาวบ้านบอกว่า การเกิดภัยแล้งปีนี้หนักที่สุดตั้งแต่เกิดมา แต่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่ยอมลงมาเหลียวแล ชาวบ้านจึงต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทวดาฟ้าดิน เพราะไม่รู้ว่าจะไปพึ่งใคร จะจุดบั้งไฟไปบอกพญาแถนก็ทำไม่ได้ เพราะติดไวรัสโควิด-19 จึงทำได้เพียงรวมตัวกันนำดอกไม้ธูปเทียน น้ำเขียวน้ำแดง มากราบไหว้บนบานศาลกล่าว เจ้าพ่อเจ้าแม่ที่ศาลเพียงตา ซึ่งเป็นที่พึ่งสุดท้ายของชาวบ้าน ให้ช่วยดลบันดาลให้ฝนฟ้าตกลงมา

น.ส.พระยิน แสงสายออ อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 144 กล่าวว่า เดือดร้อนมากไม่มีน้ำใช้ น้ำในสระเหลือน้อย และมีกลิ่นเหม็น ทำให้ไม่มีน้ำใช้ในหมู่บ้าน ทำให้เดือดร้อน อาบแล้วก็คัน น้ำทั้งขุ่นทั้งเหม็น สระผมมันก็เหม็น อยากให้มีคนมาช่วย ตอนนี้ลำบากกันทั้งหมู่บ้าน 200 กว่าหลังคาเรือน สิ่งที่ตนและชาวบ้านอยากได้คือบ่อบาดาล เพราะอยู่ที่นี่มาตั้งแต่เกิดไม่เคยได้ใช้น้ำที่เป็นปกติ มีแต่ปัญหาขาดน้ำและน้ำก็ขุ่นไม่สะอาด อยากได้ใช้น้ำที่ใสสะอาด เราเป็นร้านค้ายิ่งรู้สึกแย่ น้ำกินเราซื้อแล้ว ถ้าจะให้ซื้อน้ำใช้อีกก็คงไม่ไหว เพราะเศรษฐกิจปีนี้ก็ไม่ดีด้วย...

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก: คมชัดลึก